The iCon Group บริษัทอารมณ์ดี

ร้อนใน เกิดจากอะไร? พร้อมเผยวิธีรักษาเองได้ง่ายๆ

ร้อนใน แผลภายในช่องปากที่สร้างปัญหาทำให้ใครหลายๆ คนรู้สึกรำคาญ และทรมาน โดยเฉพาะเวลารับประทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่ม แปรงฟัน ขณะพูดคุย หรือแม้แต่การกลืนน้ำลาย ที่มักจะเกิดอาการเจ็บ และระคายเคืองบริเวณที่เป็นแผลได้

ร้อนในคืออะไร?

ร้อนใน เป็นอาการที่พบแผลเปื่อยบริเวณด้านในริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม ใต้ลิ้น ปลายลิ้น โคนลิ้น หรือส่วนใดส่วนหนึ่งภายในช่องปาก  แผลร้อนในมักมีสีเหลืองหรือสีขาวล้อมรอบไปด้วยสีแดง ส่วนใหญ่มีลักษณะกลม มีขนาดเล็ก และมีความตื้น ขนาดตั้งแต่ 1 มิลลิเมตร ไปจนถึงเซนติเมตร และอาจพบมากกว่า 1 แผลได้เช่นเดียวกัน

ร้อนใน เกิดจากอะไร

ร้อนใน เกิดจากอะไร?

ในปัจจุบันอาการ ร้อนใน ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเกิดจากอะไร แต่ปัจจัยบางอย่างอาจกระตุ้นให้เกิดร้อนในได้มากกว่าปกติ ดังนี้

  • ร่างกายวิตามิน และเกลือแร่บางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี กรดโฟลิก และวิตามินบี 12
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก นอนน้อย อดนอนเป็นประจำ
  • ความเครียด เครียดสะสม หรือความวิตกกังวล รวมทั้งการมีอารมณ์โมโหฉุนเฉียว
  • การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori)
  • การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น โรคเริม
  • แพ้สารเคมีบางชนิด เช่น สารเคมีจากยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก
  • แพ้อาหารบางชนิด เช่น ช็อกโกแลต ถั่ว ชีส
  • ทานอาหารรสจัด ทานของมัน ของทอดมากเกินไป
  • การใส่เหล็กจัดฟันหรือใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดีช่องปาก ทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุในปาก
  • การบาดเจ็บในช่องปาก เช่น เผลอกัดโดนริมฝีปาก หรือกัดโดนเนื้อเยื่อข้างกระพุ้งแก้ม ขณะเคี้ยวอาหาร
  • การรับประทานอาหารที่มีกรด เช่น มะนาว หรือ ส้ม เป็นต้น
  • เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะผู้หญิงในช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน
  • กรรมพันธุ์ หรือบุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นแผลร้อนใน
  • ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • การสูบบุหรี่

อาการของ ร้อนใน

โดยทั่วไปมักจะมีลักษณะบวมแดง และเจ็บตามจุดต่างๆ ภายในช่องปาก เช่น ที่ริมฝีปากด้านใน ลิ้น แก้ม และในบางรายอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาการไข้ หรือต่อมน้ำเหลืองบวม เป็นต้น แต่ก็ใช่ว่าภาวะร้อนในจะไม่มีอันตราย เนื่องจากยังมีอาการที่ควรเฝ้าระวังด้วย หากเกิดขึ้นควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ได้แก่

  • แผลที่เกิดขึ้นมีจำนวนมากกว่าจุดเดียว และเกิดขึ้นต่อเนื่องแม้ว่าแผลเก่าจะยังไม่หายก็ตาม
  • แผลที่เกิดขึ้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าปกติ หรือลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ
  • มีอาการไข้สูงร่วมด้วยขณะมีแผลร้อนใน
  • เป็นแผลร้อนในอย่างต่อเนื่อง และไม่มีอาการดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์
  • ผู้ที่มีปัญหา หรือมีอุปกรณ์ด้านทันตกรรมในช่องปากจนเป็นเหตุให้แผลหายช้า

ร้อนใน วิธีรักษา

วิธีรักษาร้อนใน ทำได้อย่างไรบ้าง?

1. หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด

โดยเฉพาะของทอด ของมัน หรืออาหารที่มีรสเผ็ดร้อน และผลไม้ที่มีกรดมาก อย่างสับปะรดหรือส้ม เพราะอาจส่งผลต่อการกระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบ รวมไปถึงอาหารบางประเภท เช่น ลำไย ทุเรียน เป็นต้น

2. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในทุกมื้อ โดยเฉพาะผักและผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ และควรเน้นอาหารประเภทโฮลเกรน (Whole Grains) นม ถั่ว ไข่ ตับ เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ปลา และอาหารทะเล เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายจะได้รับวิตามินบี ธาตุเหล็ก สังกะสี และกรดโฟลิกเพียงพอ

3. พักผ่อนให้เพียงพอ

ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อฟื้นฟูร่างกาย และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน นอกจากจะช่วยให้อาการดีขึ้น ยังดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย

5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ออกกำลังกายวันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

6. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดแผลในช่องปาก

โดยเฉพาะผู้ที่จัดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์หากเครื่องมือทันตกรรมที่อยู่ในช่องปากมีความคมจนทำให้เกิดบาดแผลภายในช่องปากบ่อยครั้ง

7. จัดการกับความเครียด

พยายามลดความเครียด โดยการหากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชื่นชอบ เพื่อช่วยลดความเครียด และเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องที่เครียด คลายความกังวล เพิ่มความสดชื่น ด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้ว อย่าง Boom D-NAX วิตามินเม็ดฟู่แบบละลายน้ำ กลิ่นมิกซ์เบอร์รี่ ที่อุดมไปด้วยมัลติวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายถึง 10 ชนิด หอม อร่อย สดชื่น แถมมีประโยชน์อีกด้วย

8. ดูแลสุขภาพช่องปากอยู่เสมอ

ดูแลสุขอนามัยภายในช่องปากด้วยการแปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง และใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย และป้องกันไม่ให้มีเศษอาหารตกค้างในช่องปาก ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในได้

เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีอยู่เสมอ เลือก Boom Nutrition Toothpaste ยาสีฟันสมุนไพรเนื้อไมโครเจล อ่อนโยน เย็นสดชื่น ไม่แสบปาก ซึ่งยาสีฟัน BOOM ยังมีคุณสมบัติช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของเหงือกและฟัน

ร้อนใน ไม่ได้นับว่าเป็นโรคร้ายแรง แต่อาการที่เกิดขึ้นมักคอยสร้างความรำคาญ และความลำบากในการใช้ชีวิตได้ ดังนั้นเราควรรักษาสุขอนามัยของช่องปาก เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะร้อนในให้ได้มากที่สุด และหากมีวิธีรักษาร้อนในอย่างถูกวิธี ก็จะสามารถช่วยบรรเทาอาการของร้อนในให้ดีขึ้นได้

Share this article
Shareable URL
Prev Post

เคล็ดลับผิวสวยคู่สุขภาพดี? นี่เลย Boom Collagen

Next Post

ผู้บริหารระดับสูง สู่แม่ค้าออนไลน์ | Koi

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Read next

แนะนำ วิธีเสริมภูมิคุ้มกันด้วย วิตามินซี สำหรับคนพักผ่อนน้อย

วิตามินซี คือตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง เพราะเมื่อภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้เราเจ็บป่วยได้ง่าย…
0
Share