ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นยิ่งทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง โดยเฉพาะในคนวัย 40+ ขึ้นไป เป็นที่มาของปัญหาริ้วรอย ผิวหนังหย่อนคล้อย และหยาบกร้าน เราจึงต้องเติมคอลลาเจนให้แก่ผิว เพื่อให้ผิวพรรณดูสุขภาพดี เนียนนุ่ม และกระชับ ซึ่งจริงๆ แล้ว คอลลาเจน ยังมีประโยชน์กับส่วนอื่นๆ ของร่างกายอีกมากมาย ทั้งผม เล็บ และข้อกระดูก ในบทความนี้เราจะพาคุณไปดูประโยชน์ของคอลลาเจนว่า นอกจากบำรุงผิวพรรณแล้ว เขายังช่วยในเรื่องอะไรบ้าง รวมไปถึง โรคที่ห้ามกินคอลลาเจน เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเหล่านั้น ได้ระมัดระวังในการทานคอลลาเจน
ประโยชน์ของคอลลาเจน ที่มากกว่าผิวสวย
คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นมา ทำหน้าที่เป็นเหมือนเส้นใยคอยยึดเกาะเซลล์และโครงสร้างเนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็นต่างๆ ถึง 75% ดังนั้น คอลลาเจน จึงมีประโยชน์มากกว่าทำให้ผิวสวยนั่นเอง
- ผิว คอลลาเจนจะเข้าไปเพิ่มความยืดหยุ่น และความชุ่มชื้น ทำให้ผิวสดใส เปล่งปลั่ง กระชับ ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำแลดูจางลง ลดปัญหาผิวแก่ก่อนวัย ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และยังช่วยสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
- เล็บ คอลลาเจนจะไปช่วยสร้างสารเคราติน ทำให้เล็บแข็งแรง เล็บยาวเร็วขึ้น ไม่เปราะ หักง่าย ไม่ทำให้ผิวเล็บหยาบ ขรุขระ หรือหลุดลอก
- ผม ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม ทำให้หนังศีรษะและรากผมแข็งแรง เส้นผมที่เกิดใหม่ไม่ขาดร่วงง่าย
- ข้อกระดูก ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เสริมความแข็งแรงของข้อกระดูก บรรเทาอาการอักเสบของข้อกระดูก รักษาโรคข้อเสื่อม ช่วยลดกระบวนการสลายแคลเซียม
นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เสริมการสังเคราะห์เกล็ดเลือด ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ไม่ให้เกิดการเสียเลือดมากเกินไป
ซึ่งประโยชน์ของคอลลาเจนเหล่านี้ คุณก็สามารถพบได้ใน Boom Collagen ที่คัดสรรสารสกัดเกรดพรีเมี่ยมมากถึง 36 ชนิด มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณ ผม เล็บ และข้อกระดูกแข็งแรง แลดูสุขภาพดี พร้อมด้วยสารสกัดที่มีวิตามินซีสูง และสารสกัดที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อการดูแลสุขภาพและความงามอย่างครบถ้วน
อันตราย! โรคที่ห้ามกินคอลลาเจน
สำหรับโรคที่ไม่ควรกินคอลลาเจนเลย คือ
- โรคไต เพราะคอลลาเจนคือโปรตีนสกัดเข้มข้น ผู้ป่วยโรคไตระยะ 3b, 4 และ 5 หรือค่าไตน้อยกว่า 45% ไม่ควรทาน เพราะโปรตีนจะสูง ทำให้ไตทำงานหนัก ค่าของเสียก็จะสูงตามไปด้วย
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพราะในคอลลาเจนอาจจะมีสารอาหารบางอย่างที่จะไปต่อต้านกับตัวยาที่กำลังใช้รักษาโรคมะเร็งอยู่
- ผู้ป่วยรอการผ่าตัด เพราะภายในอาหารเสริมคอลลาเจนยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจจะไปส่งผลกับตัวยาที่หมอให้ จนมีฤทธิ์ต่อต้านทำให้ยาไม่ได้ผล หรือเป็นอันตรายได้
- ผู้แพ้อาหารทะเล ก็ควรระวังอย่างยิ่ง เพราะโดยส่วนมากคอลลาเจนจะสกัดมาจากปลาทะเลน้ำลึก ทำให้เป็นอันตรายแก้ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารทะเล
- ผู้ที่มีอาการแพ้ส่วนผสมอื่นในคอลลาเจน ดังนั้นก่อนทานอาหารเสริมจึงควรอ่านฉากส่วนผสมทุกครั้ง เพื่อดูว่ามีส่วนผสมที่เราแพ้หรือไม่ พร้อมทั้งปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
ส่วนผู้ป่วยเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน หลอดเลือด เมแทบอลิซึม และผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็น
- โรคลิ่มเลือดหัวใจ
- โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง SLE หรือ HIV
- โรคธาลัสซีเมีย
- โรคไวรัสตับอักเสบ
- โรคไขมันพอกตับ
- โรคนิ่วในถุงน้ำดี
- โรคเก๊า
- ไทรอยด์
- โรคพังผืดกดทับเส้นประสาท
ควรเลือกคอลลาเจนที่มีความปลอดภัย คือ มีแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือ มี อย. และไม่มีส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อโรคที่เป็นอยู่ ดังนั้นผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริมทุกครั้ง
แม้ว่าคอลลาเจนจะเต็มไปด้วยประโยชน์ แต่ก็เป็นอันตรายกับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในบางราย ดังนั้นก่อนทานอาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจว่าคุณสามารถทานได้ และทานได้ในปริมาณเท่าไหร่ เพราะหากทานในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะส่งผลเสียให้แก่ร่างกายได้
โดยปกติแล้วร่างกายของเราต้องการคอลลาเจนเพียง 2,000-2,500 มิลลิกรัม ซึ่งหากทานคอลลาเจนในปริมาณมาก เกิน 7,000 มิลลิกรัม/วัน จะทำให้เกิดการตกค้างในร่างกาย ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาอีกมากมาย
ดังนั้นจึงควรทานแค่พอเหมาะ พร้อมๆ ไปกับการออกกำลังกาย ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ เลือก Boom Collagen เป็นตัวช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ผิวและสุขภาพของคุณ