The iCon Group บริษัทอารมณ์ดี

ปวดฟัน สัญญาณอันตรายของสุขภาพช่องปาก

ปวดฟัน เป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพช่องปากที่รุนแรงได้ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับสาเหตุของอาการปวดฟัน วิธีแก้ไข และวิธีดูแลสุขภาพช่องปาก เพื่อป้องกันอาการปวดฟันที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

การทราบถึงสาเหตุของอาการ ปวดฟัน จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี หากคุณมีอาการปวดฟัน ควรรีบไปปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างเหมาะสม

ปวดฟัน เกิดจากอะไร

ปวดฟัน เกิดจากอะไร?

อาการปวดฟันเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบได้บ่อย และสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ เรามาดูสาเหตุหลักๆ ของอาการปวดฟันกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. ฟันผุ

ฟันผุ เป็นสาเหตุของอาการปวดฟันที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก และเปลี่ยนน้ำตาลที่ผิวฟันเป็นกรด ซึ่งกรดนี้จะกัดกร่อนส่วนเคลือบฟัน ทำให้เกิดโพรงในฟัน เมื่อฟันผุลึกถึงชั้นในที่มีเส้นประสาท ก็จะเกิดอาการปวดฟันตามมา

2. เหงือกอักเสบ

การสะสมของคราบพลัค และหินปูนบนฟัน สามารถทำให้เหงือกอักเสบได้ ซึ่งการอักเสบของเนื้อเยื่อที่รองรับฟัน จะทำให้เกิดอาการปวด และเหงือกร่นได้

3. ฟันคุด

ฟันคุดเกิดขึ้นเมื่อฟันซี่หนึ่งไม่สามารถโผล่ออกมาเต็มที่ และติดอยู่ในกระดูกหรือเหงือก อาจทำให้เกิดอาการปวด บวม และอักเสบได้

4. การสึกกร่อนของส่วนเคลือบฟัน

การแปรงฟันที่ผิดวิธี หรือการใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมที่กัดกร่อน สามารถทำให้สารเคลือบฟันสึกกร่อน ทำให้เกิดอาการเสียวฟัน และปวดฟันได้

5. การบาดเจ็บหรือแตกหักของฟัน

การบาดเจ็บที่ฟัน เช่น การกระแทก หรือการกัดของแข็ง อาจทำให้ฟันร้าว แตกหัก หรือโยกได้ ส่งผลทำให้เกิดอาการปวดฟัน

6. ภาวะโรคต่างๆ

บางครั้งอาการปวดฟันอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ภาวะไซนัสอักเสบ ทำให้เกิดความเจ็บปวดในบริเวณฟันกรามบน และโรคเบาหวาน ทำให้สุขภาพช่องปากเสื่อมลง เป็นต้น

วิธีแก้ปวดฟัน บรรเทาอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง

วิธีแก้ปวดฟัน บรรเทาอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง

อาการ ปวดฟัน เป็นสิ่งที่ทำให้เราใช้ชีวิตประจำวันด้วยความยากลำบาก แต่เราสามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นด้วยวิธีการต่างๆ ได้ ดังนี้

  • ใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อลดอาการปวดฟันได้
  • ใช้น้ำเกลือบ้วนปาก การบ้วนปากด้วยน้ำเกลือสามารถช่วยลดการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดฟันได้
  • ประคบเย็น ใช้น้ำแข็งห่อผ้าแล้วประคบที่แก้มบริเวณที่ปวดฟัน สามารถช่วยลดอาการบวม และอาการปวดฟันได้ 
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีลักษณะเหนียว แข็ง และเย็นจัด เพราะสามารถทำให้อาการปวดฟันรุนแรงขึ้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้จนกว่าจะได้รับการรักษาจากทันตแพทย์

การดูแล สุขภาพช่องปาก เพื่อป้องกันอาการปวดฟัน

การดูแล สุขภาพช่องปาก เพื่อป้องกันอาการปวดฟัน

การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งที่สำคัญในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ฟันผุ เหงือกอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักๆ ของอาการปวดฟัน ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีดูแลสุขภาพช่องปากที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ทุกวัน ดังนี้

1. แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

ควรแปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ อย่าง Boom Nutrition Toothpaste ยาสีฟันสมุนไพร เนื้อไมโครเจลให้ฟองนุ่ม เป็นยาสีฟันสูตรอ่อนโยน ไม่ทำให้แสบปาก ซึ่งสามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก โดยไม่ทำให้ผิวเนื้อฟันสึกกร่อน โดย ยาสีฟัน BOOM มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของเหงือก ช่วยป้องกันฟันผุได้อย่างประสิทธิภาพ

2. ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน

การใช้ไหมขัดฟันจะช่วยลดการสะสมของคราบพลัค รวมถึงหินปูนภายในช่องปาก และเศษอาหารที่ติดอยู่ระหว่างฟัน ซึ่งแปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ ควรใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของคราบพลัค ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดฟันผุ และเหงือกอักเสบ

3. บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก

การบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ สามารถช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย และคราบพลัคภายในช่องปากได้ และยังช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่นอีกด้วย ควรใช้น้ำยาบ้วนปากหลังการแปรงฟัน และการใช้ไหมขัดฟัน

4. หลีกเลี่ยงอาหาร และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

น้ำตาลเป็นอาหารของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหาร และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาล

5. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ

การดื่มน้ำเปล่าสามารถช่วยล้างคราบอาหาร และแบคทีเรียออกจากช่องปากได้ รวมถึงช่วยรักษาความชุ่มชื้นภายในช่องปาก ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตร

6. ควรไปพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน

การตรวจสุขภาพช่องปาก และการรักษาทางทันตกรรมเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน จะช่วยให้ทันตแพทย์สามารถตรวจพบปัญหาเล็กๆ น้อยๆ และรักษาได้ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เช่น การขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน และการผ่าตัดฟันคุด ซึ่งนอกจากนี้ยังช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธีอีกด้วย

7. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ สามารถทำลายสุขภาพช่องปากได้ โดยจะทำให้เหงือกอักเสบ ฟันผุ และมีกลิ่นปาก ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี

8. กินอาหารที่มีประโยชน์

การกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักและผลไม้สด จะช่วยให้ฟันและเหงือกของคุณแข็งแรง โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม จะช่วยเสริมสร้างฟันและกระดูกให้แข็งแรง

อาการ ปวดฟัน เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพช่องปากที่ไม่ควรมองข้าม การรู้ถึงสาเหตุของอาการปวดฟัน และการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณสามารถป้องกัน และรักษาอาการปวดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณมีอาการปวดฟัน อย่าลืมไปพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างเหมาะสม

Share this article
Shareable URL
Prev Post

เครียดลงกระเพาะ โรคยอดฮิตคนวัยทำงาน ต้องระวัง!

Next Post

10 พฤติกรรมที่ทำให้มี ไขมันส่วนเกิน และวิธีลดให้ได้ผล!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Read next

นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ มีวิธีแก้ไขอย่างไร? ไม่ให้เสียสุขภาพ

นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยๆ ในสังคมยุคปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากโรคประจำตัว…

เรื่องสำคัญที่ควรรู้! โรคที่ห้ามกินคอลลาเจน มีอะไรบ้าง?

ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นยิ่งทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง โดยเฉพาะในคนวัย 40+ ขึ้นไป เป็นที่มาของปัญหาริ้วรอย…
0
Share