สำหรับคนที่ต้องการ ลดน้ำหนัก ไปพร้อมๆ กับมีสุขภาพที่ดี บอกเลยว่าฝันนี้ไม่ไกลเกินเอื้อมเลยค่ะ ซึ่งหลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าถ้าเราอยากผอม เราต้องอดข้าว ควบคุมอาหาร ซึ่งเมื่อรับสารอาหารไม่เพียงพอเท่าที่ร่างกายต้องการ สุขภาพของเราก็อาจจะแย่หรือป่วยในระยะยาวได้ ดังนั้น เพื่อให้เพื่อนๆ ที่ต้องการมีหุ่นในฝัน เราจึงได้ทำการรวบรวมทริคการลดน้ำหนักมาฝากกัน ไม่อันตราย ทำตามได้ง่ายๆ เลย
9 ทริคลดน้ำหนัก ให้หุ่นเพรียวพร้อมสุขภาพดี
มา! ใครอยากมีหุ่นเพรียว ไปพร้อมกับการมีสุขภาพดี ต้องรู้จักลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ควบคู่ไปกับความพยายาม ไม่ย่อท้อ และมีระเบียบวินัย เพื่อหุ่นที่ดี เชื่อว่าเพื่อนๆ ทำตามได้สบาย
1. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
อาจจะเป็นเรื่องที่ยากไปสักหน่อย แต่การทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ จะเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการลดน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน จากเนื้อสัตว์ ไข่ นม และถั่ว เน้นที่ไม่มีไขมัน คาร์โบไฮเดรต จากข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี เกลือแร่และแร่ธาตุจากผัก วิตามินจากผลไม้ และ ไขมัน จากพืช หลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์
2. ทานผักผลไม้ให้มากขึ้น
เนื่องจากในผักและผลไม้มีวิตามิน เกลือแร่ และใยอาหารสูง ที่จะเข้าไปช่วยให้ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายและระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูก ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสุขถาพดี อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำตาลในเลือดด้วย ดังนั้น ในการกินอาหารแต่ละมื้อ ควรเพิ่มปริมาณผักสัก 2 ทัพพี หรือให้ได้ครึ่งนึงของอาหารแต่ละมื้อ แนะนำให้รับประทาน ผักที่มีกากใยสูงๆ เช่น คะน้า กระเจี๊ยบเขียว และผักกาดขาว จะช่วยให้เราอิ่มท้องได้นานมากยิ่งขึ้น และเลือกกินผลไม้หลากหลายชนิดเป็นประจำ เน้นผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำเป็นหลัก เช่น อะโวคาโด แอปเปิ้ลเขียว และกล้วยน้ำว้า
3. มื้อเช้าห้ามขาด
ซึ่งข้อนี้ถือว่ายากเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มของพนักกงานออฟฟิศแบบเราๆ เพราะแต่ละเช้าเร่งรีบซะเหลือเกิน ซึ่งมื้อเช้าสำคัญมาก เพื่อให้เรามีพลังงานไปหล่อเลี้ยงให้พร้อมกับกิจกรรมมากมาย ให้สมองมีสารอาหารช่วยให้ความจำดี ยิ่งในผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก การทานมื้อเช้าช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้ดีกว่าคนที่อดอาหารมื้อเช้าอีกด้วย แต่หากมันไม่มีเวลาจริงๆ แนะนำให้ทานธัญพืช 1 ถ้วย และนมอัลมอนด์ หรือโยเกิร์ตกับผลไม้ประเภทเบอร์รี่ ซึ่งย่อยง่าย อิ่มนาน และให้พลังงานต่ำ
4.ออกกำลังกาย
นอกจากเรื่องการเลือกทานอาหารแล้ว การออกกำลังกายก็ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้เราเห็นผลลัพท์ของการลดน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น โดยแนะนำให้ออกกำลังกายวันละ 30-60 นาที จะช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น เบิร์นแคลอรี่และไขมันได้อย่างดี อย่างเช่น การกระโดดเชือก เพียง 15 นาที เท่ากับการวิ่งออกกำลังกายถึง 30 นาที หรือจะเป็นการเล่นโยคะ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังเป็นการบำบัดอาการออฟฟิศซินโดรม และลดความเครียดได้ สร้างสมดุลให้ร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยสลายไขมันและทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำที่เพียงพอช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนักได้จริง ซึ่งเขามีผลงานวิจัยคอนเฟิร์มมาแล้ว โดยเฉพาะการดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารประมาณ 30 นาที จะช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้น หิวน้อยลง ทานข้าวได้น้อยลง ซึ่งการดื่มน้ำที่เพียงพอต่อร่างกายต้องการ ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด อีกทั้งยังทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย
6. ลดการกินน้ำตาล น้ำหวาน
สิ่งที่เป็นปัญหาอันดับต้นๆ ให้การลดน้ำหนักของเราเป็นเรื่องยาก คือ หลายคนมักติดดื่มน้ำหวาน ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก กาแฟ โกโก้เย็น รวมไปถึงขนมหวานอื่นๆ ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง ทำให้ได้รับพลังงานและแคลอรี่มากเกินกว่าที่ร่างกายสามารถเผาผลาญได้ จึงเกิดการสะสมกลายเป็นไขมันในร่างกายนั่นเอง แนะนำให้หันมาดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล เช่น กาแฟดำ น้ำมะพร้าว หรือน้ำเปล่า หากต้องการความหวาน ควรดื่มน้ำผลไม้ปั่น หรือผลไม้สด เพื่อให้เราได้รับวิตามิน และเกลือแร่ที่ดีต่อสุขภาพ ร่างกายสดชื่นอีกด้วย และเพื่อให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นใส่มะนาวฝานในทุกเช้า จะช่วยดีท็อกซ์และเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
7. ลดการกินโซเดียม
เพราะการกินโซเดียมที่มากเกินไป จะทำให้รู้สึกคอแห้ง กระหายน้ำ ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ใต้ผิวหนัง เพื่อปรับสมดุลของโซเดียมในร่างกาย หลายคนมีอาการ “หน้าบวม” และทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น รวมไปถึงโรคมากมายที่จะตามมา ไม่ว่าะเป็นโรคไต โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคกระดุกพรุน เป็นต้น ดังนั้นเพื่อนๆ ที่ต้องการลดน้ำหนัก จึงควรงดกินโซเดียม ซึ่งนอกจากเกลือและน้ำปลาแล้ว ยังมีใน ผงชูรส ผงฟู น้ำสลัด ไอศกรีม และอาหารสำเร็จรูปอีกด้วย
8. พักผ่อนให้เพียงพอ
ในหนึ่งวันเราควรพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง และควรเข้านอนไม่เกิน 22:00 น. เพราะช่วงเวลา 1:00-2:00 น. โกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ซึ่งช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อขณะหลับลึกและช่วยเผาผลาญไขมันจะหลั่งออกมามาก จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญขณะที่เรานอนหลับพักผ่อน และควรกินอาหารมื้อเย็นให้เสร็จก่อนเข้านอน ราวๆ 3-4 ชั่วโมง ให้อาหารที่ทานถูกลำเลียงเข้าสู่ลำไส้เล็กเรียบร้อยก่อน เพื่อไม่ให้เกิดอาการ กรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก และยังเสริมสร้างการนอนหลับให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
9. ทำ IF ควบคู่ไปด้วย
สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน แนะนำให้ทำ IF หรือ Intermittent Fasting ควบคู่ไปด้วย ซึ่งมันไม่ใช้การอดอาหาร แต่เป็นการทานอาหารในช่วงเวลาที่เรากำหนด ซึ่งก็มีด้วยกันหลายสูตร สูตรที่ทำได้ง่ายๆ เลยคือ สูตร 16/8 เพราะร่างกายจะไม่เหนื่อยเกินไป สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน โดยรับประทานอาหารได้ 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่น รับประทานอาหาร เวลา 08:00-16:00 น. หลังจากนั้น ดื่มได้เพียงน้ำเปล่า หรือกาแฟดำ ชา ที่ไม่ใส่น้ำตาล
ซึ่งจุดนี้แหละที่มันเป็นเรื่องยาก เพราะเราต้องอดทนกับความหิวให้ได้ ดังนั้นจึงขอแนะนำไอเทมที่จะมาช่วยปิดซิปความหิว ด้วย Zip Lock ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซิป หรือ Zip Dietary Supplement Product ล็อกความอยากอาหารได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับประทาน และยังมีสารสกัดที่ช่วยในเรื่องการเผาผลาญ ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดจากยีสต์, แอล-คาร์นิทีน, โครเมียม ฟิโคลิเนต, ผงน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล และสารสกัดจากชาเขียว
วิธีทานก็ง่ายมาก เพียง 1-2 แคปซูล ก่อนทานอาหาร 30 นาที กล่องเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก ช่วยให้คุณสนุกกับการกินได้มากขึ้น จะมื้อหนักแค่ไหนก็หายห่วง
ลดน้ำหนัก แบบสุขภาพดี ต้องเริ่มที่การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และดื่มน้ำให้เพียงพอ งดการกินจุกจิกระหว่างวัน โดยให้ Zip Lock เป็นตัวช่วยปิดซิปความหิว ซึ่งทุกทริคที่เรายกมานั้นบอกเลยว่าทำตามได้ง่ายมาก แต่ใครจะลดได้มาหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับวินัย ความอดทน และสุขภาพของแต่ละคน เลือกวิธีลดน้ำหนักให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และไม่ลืมที่จะมีสุขภาพดีควบคู่ไปด้วยนะคะลดน้ำหนัก
อ้างอิง :
